จิตวิทยาที่แบรนด์นำมาใช้ แต่ลูกค้าไม่เคยรู้

จิตวิทยาที่แบรนด์นำมาใช้ แต่ลูกค้าไม่เคยรู้

ปกติแล้วมนุษย์เราจะมีเวลาไม่กี่นาทีในการตัดสินใจซื้อของ เพราะฉะนั้นเองแบรนด์ต่าง ๆ จะต้องใช้หลัก “จิตวิทยา” ที่จะทำอย่างไรให้ลูกค้าเแล้วตัดสินใจซื้อ มัดใจลูกค้าด้วยกลยุทธ์ ที่ต้องใช้หลักการทำงานของสมองและจิตใต้สำนึก

ซึ่งที่ผ่านมาแบรนด์ต่าง ๆ ก็ใช้หลักจิตวิทยามาใช้ แต่ลูกค้าไม่รู้ตัว จะสังเกตได้ว่าแม้สินค้าที่เหมือน ๆ กัน แต่ทำไมอีกแบรนด์ถึงขายดีกว่า ซึ่งตัวแปรคือการกระตุ้นอารมณ์ลูกค้า เป็นการใช้หลักจิตวิทยาอย่างแท้จริง

  • สื่อสารและทำแคมเปญให้เข้าใจง่าย การทำการตลาดที่สำคัญคือต้องผ่านการนำเสนอที่เข้าใจง่าย ไม่ซับซ้อน สื่อสารไปอย่างตรงไปตรงมา เพราะลูกค้ามีเวลาตัดสินใจซื้อไม่มาก ดีอย่างไร ทำไมต้องซื้อ ซื้อไปแล้วจะได้อะไร จะช่วยให้ลูกค้าเข้าใจได้ทันที ไม่ต้องเสียเวลาใด ๆ
  • สร้างการจดจำ ด้วยความรู้สึก ลูกค้าส่วนใหญ่ต้องการมีประสบการณ์ในการซื้อสินค้าที่ดี จะช่วยให้เพิ่มการตัดสินใจซื้อและโอกาสในการกลับมาซื้อซ้ำ ประสบการณ์ที่ว่านั้นก็มีทั้ง “เสียงเพลง (Music Marketing)” ซึ่งปัจจุบันแบรนด์ต่าง ๆ มักใช้กลยุทธ์นี้ เพราะในทางหลักจิตวิทยา เสียงเพลงจะวนเวียนซ้ำ ๆ สร้างการจดจำให้กับกลุ่มลูกค้า เป็นการส่งผลต่อประสบการณ์และช่วยสร้างการจดจำเป็นอย่างดี
  • มอบความรู้สึกพิเศษ เพื่อคนพิเศษให้กับลูกค้า แบรนด์ดังต่าง ๆ มักจะใช้หลักจิตวิทยา ในการทำให้ลูกค้ารู้สึก “พิเศษ” ไม่ว่าจะเป็นออกสินค้ารุ่น Limited , การมอบของแถม จะทำให้ตัดสินใจซื้อได้ง่าย แม้ว่าของที่ซื้ออาจจะไม่ใช่ของที่ต้องการก็ตาม และหากลูกค้าได้เกิดความรู้สึกพิเศษ เขาจะเดินกลับมาซื้ออีกครั้ง รวมถึงอาจรีวิว ส่งต่อความเห็นดี ๆ ลงบนโซเชียล สร้างภาพลักษณ์ที่ดีเพิ่มให้กับแบรนด์
  • ตั้งราคา จิตวิทยาเรื่องตัวเลข การตั้งราคา เป็นหลักการที่ต้องให้ความสำคัญ เพราะไม่ใช่แค่เรื่องกำไร-ขาดทุน แต่เป็นเรื่องของจิตวิทยาของลูกค้า เพราะราคาจะเป็นตัวกำหนดการดึงดูด ความสนใจให้กับสินค้า เช่น การตั้งราคาสินค้า ลงท้ายด้วยเลข 9 จะทำให้ลูกค้ารู้สึกราคาไม่แพง เช่นของราคา 99 บาท ก็อาจมองว่า “ไม่แพง” , “ไม่ถึงร้อย” ทั้งๆ ที่ความจริงก็เป็นราคาใกล้กับ 100 บาทนั่นแหละ
  • จิตวิทยาความกลัว ช้าหมด อดได้ของ การใช้หลักจิตวิทยาข้อนี้ มักจะมาจากสินค้าที่ดูมี Value ด้วยการผลิตออกมาจำนวนน้อย ตรงข้ามกับความต้องการลูกค้าที่สูง เช่น ผลิตน้อย หมดแล้วหมดเลย , ผลิตมาแค่ 500 ชิ้น ทำให้ลูกค้ากลัวของหมด ต้องรีบซื้อ-รีบสอย จับจองเป็นเจ้าของ นอกจากนี้ยังใช้หลักจิตวิทยา ผ่านข้อเสนอแบบจำกัดเวลา เช่นทำแคมเปญและระบุเวลาหมดอายุ อย่าง “3 วันเท่านั้น” และเหลือของในสต็อกอยู่เพียง 10 ชิ้น เท่านั้น เพื่อให้รีบตัดสินใจ
  • ใช้คนดังการันตีความน่าเชื่อถือ การชวนเชื่อด้วยคนดังหรืออินฟลูเอนเซอร์ เป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อของผ่านการรีวิว จนเกิดคล้อยตาม อยากจะลองซื้อ-ลองใช้

เรียกว่าหลังจากนี้แบรนด์ใดใช้กลยุทธ์เหล่านี้ รับรองว่าขายดิบขายดี ปิดการขายได้แน่นอน เพราะมัดใจลูกค้าอย่างอยู่หมัดแล้ว

en_USEnglish